บินตรงชิงเต่า เหลาซาน แดนสวรรค์คาบสมุทรซานตง เสน่ห์แดนมังกร ในกลิ่นอายเยอรมัน ชิงเต่า เยียนไถ เว่ยฝ่าง 7 วัน 6 คืน โดยสายการบิน ชิงเต่า แอร์ไลน์ (QW)

พร้อมกันที่ ท่าอากาศสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ชั้น 4 ประตู 10 เคาน์เตอร์ โดยมีเจ้าหน้าที่คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกตรวจเช็คสัมภาระและเอกสารการเดินทางให้กับทุกท่าน เช็คอิน ณ เคาน์เตอร์ สายการบิน ชิงเต่า แอร์ไลน์ (QW) รวมน้ำหนักกระเป๋าสำหรับโหลดใต้เครื่อง 20 กิโลกรัม โดยจำที่ท่านละ 1 ใบ

ออกเดินทางจาก สนามบินสุวรรณภูมิ สู่ สนามบินชิงเต่า มณฑลซานตง โดย สายการบิน ชิงเต่า แอร์ไลน์ (QW) เที่ยวบินที่ QW9898
**ไม่มีอาหารบนเครื่อง** สายการบินมีขายอาหารบนเครื่อง (มีเฉพาะบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและขนมทานเล่น) โดยท่านสามารถสั่งซื้อได้ ณ เจ้าหน้าที่แอร์ บนเครื่องบิน (ไม่เปิดให้จองล่วงหน้า) ทั้งนี้เมนูอาหารอาจจะแตกต่างกันออกไปในแต่ละไฟลท์ โดยมีสายการบินเป็นผู้กำหนด

เดินทางถึง สนามบินชิงเต่าเจียวตง มณฑลซานตง ที่ซึ่งลมหายใจแห่งยุโรปและจิตวิญญาณจีนบรรจบกันริมฝั่งทะเลเหลือง ในมณฑลซานตงอันกว้างใหญ่ มีนครแห่งหนึ่งที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น "ทวีปยุโรปแห่งทิศบูรพา" เมืองนั้นคือ "ชิงเต่า" ที่นี่ไม่ใช่แค่เมืองท่าที่สำคัญ แต่เป็นผืนผ้าใบที่มีชีวิตซึ่งวาดแต่งด้วยสีสันของประวัติศาสตร์อันน่าทึ่ง วัฒนธรรมที่ผสมผสาน และทิวทัศน์ชายทะเลที่งดงามจับใจ
เสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของชิงเต่าถือกำเนิดจากหน้าประวัติศาสตร์ที่ไม่เหมือนใคร ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ชิงเต่าซึ่งเดิมเป็นเพียงหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ ได้กลายเป็นเขตเช่าของเยอรมนี แม้จะเป็นช่วงเวลาเพียง 16 ปี แต่ชาวเยอรมันได้วางรากฐานเมืองสมัยใหม่ไว้อย่างมั่นคง ทั้งระบบสาธารณูปโภค ถนนหนทางที่กว้างขวาง และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง สถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปที่ยังคงงดงามมาจนถึงทุกวันนี้

หลังจากนำท่านผ่านขั้นตอนตรวจคนเข้าเมืองและรับกระเป๋าแล้ว นำท่านเข้าสู่ที่พัก

HOLIDAY INN EXPRESS QINGDAO CHENGYANG หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว (มาตรฐานประเทศจีน)

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 1)

นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองเว่ยฝ่าง (ระยะทาง 160 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.5 ชั่วโมง) ณ ใจกลางมณฑลซานตง พื้นที่แสดงออกทางศิลปะอันไร้ขีดจำกัด "เมืองหลวงแห่งว่าวโลก" ที่ซึ่งจิตวิญญาณแห่งการสร้างสรรค์ล่องลอยไปกับสายลม และรากเหง้าทางวัฒนธรรมได้ถักทอเป็นเรื่องราวอันน่าประทับใจ ในอดีต เว่ยฟางเป็นศูนย์กลางการผลิตและจำหน่ายภาพพิมพ์ปีใหม่และว่าวที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของจีน ทุกๆ เดือนเมษายน ท้องฟ้าเหนือเหวยฟางจะเต็มไปด้วยสีสันและจินตนาการใน เทศกาลว่าวนานาชาติเหวยฟาง (Weifang International Kite Festival) ซึ่งจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 1984 ว่าวจากทั่วทุกมุมโลกในรูปทรงมังกร หงส์ และดีไซน์ร่วมสมัยจะมารวมตัวกัน สร้างปรากฏการณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ และตอกย้ำสถานะของเหวยฟางในฐานะศูนย์กลางวัฒนธรรมว่าวของโลก

นำท่านเดินทางก้าวเข้าสู่ อุทยานศิลปะพื้นบ้านหยางเจียปู้ ดั่งหลุดเข้าไปในโลกที่สีสันและเรื่องราวจากปลายพู่กันโลดแล่นมีชีวิต ที่นี่ไม่ใช่แค่พิพิธภัณฑ์ แต่เป็นหมู่บ้านวัฒนธรรมโบราณที่ยังคงสืบทอดลมหายใจของสองสุดยอดงานศิลป์แห่งซานตง นั่นคือ "ภาพพิมพ์ปีใหม่ ที่แกะสลักจากไม้ด้วยลายเส้นอันเป็นเอกลักษณ์ และ "ว่าว" ที่มีชื่อเสียงก้องไกลไปทั่วโลก ที่หยางเจียปู้ คุณจะได้เห็นช่างฝีมือท้องถิ่นรังสรรค์ผลงานอันน่าทึ่ง ตั้งแต่การแกะสลักแม่พิมพ์ไม้อย่างประณีตไปจนถึงการลงสีสันสดใสบนตัวว่าวแต่ละตัว และที่พิเศษไปกว่านั้น คือการได้ลงมือสร้างสรรค์ภาพพิมพ์และว่าวของคุณเอง ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่จะทำให้คุณเชื่อมโยงกับวัฒนธรรมท้องถิ่นได้อย่างลึกซึ้ง

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 2)

นำท่านก้าวเข้าสู่ หมู่บ้านโบราณฝ่างจื่อ เดินทางข้ามเวลาสู่เมืองเหมืองแร่สไตล์ยุโรปในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 กับหน้าประวัติศาสตร์ที่มีชีวิตของเมืองเว่ยฟาง มณฑลซานตง เดิมทีที่นี่เคยเป็นเขตสัมปทานของเยอรมนีและญี่ปุ่นในช่วงปี 1898 ถึง 1914 ซึ่งเข้ามาทำเหมืองถ่านหินและสร้างทางรถไฟสายเจียวจี้ ทำให้เมืองแห่งนี้เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมตะวันตกอันโดดเด่น ทั้งอาคารสไตล์เยอรมันกว่า 103 แห่ง และสไตล์ญี่ปุ่นอีก 63 แห่ง ที่ยังคงได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นสถานีรถไฟเก่า โบสถ์ ที่ทำการไปรษณีย์ โรงพยาบาล หรือบ้านพักนายทหาร ปัจจุบัน ที่นี่ได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับผู้ที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม และการถ่ายภาพที่ไม่เหมือนใคร

นำท่านออกเดินทางสู่ ถนนสายลมวสันต์สิบลี้ สายลมแห่งวัฒนธรรมในเมืองเว่ยฟาง หลีกหนีความวุ่นวายและก้าวเข้าสู่ถนนสายวัฒนธรรมที่ซ่อนตัวอยู่ในเมือง ผสมผสานอันงดงามระหว่างสถาปัตยกรรมจีนและตะวันตกอย่างลงตัว อาคารอิฐสีเทาที่เรียงรายตัดกับหลังคากระเบื้องสีเข้ม สร้างบรรยากาศย้อนยุคแต่แฝงไว้ด้วยความทันสมัย เดิมทีที่นี่ถูกวางให้เป็นศูนย์กลางแห่งความคิดสร้างสรรค์ ที่รวบรวมทั้งศูนย์ศิลปะวัฒนธรรม โรงแรมสไตล์วินเทจ ร้านอาหารเก๋ๆ และแหล่งช้อปปิ้ง แม้ว่าปัจจุบันบรรยากาศอาจจะยังไม่คึกคักมากนัก แต่ก็ทำให้ที่นี่กลายเป็นอัญมณีที่รอการค้นพบ เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพและต้องการสัมผัสอีกมุมหนึ่งของเมืองที่เงียบสงบและมีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 3) ลิ้มรสเป็ดย่างจักรพรรดิ

สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก

HOLIDAY INN EXPRESS WEIFANG หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว (มาตรฐานประเทศจีน)

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 4)

นำท่านเดินทางสู่ เมืองเยียนไถ (ระยะทาง 219 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) ณ ชายฝั่งมณฑลซานตง มีเมืองแห่งหนึ่งที่ลมหายใจผูกพันอยู่กับเกลียวคลื่นและตำนานโบราณ ชื่อของเมือง "เยียนไถ" แปลว่า "หอควัน" มีที่มาจากหอสังเกตการณ์ที่ใช้จุดไฟให้สัญญาณควันเพื่อเตือนภัยจากโจรสลัดในสมัยราชวงศ์หมิง สะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันยาวนานระหว่างผู้คนกับผืนน้ำที่ทั้งมอบชีวิตและเป็นปราการป้องกันภัยมานับศตวรรษ

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 5)

นำท่านเช็คอิน คฤหาสน์เหวินเฉิง สถาปัตยกรรมสไตล์บาโรกที่งดงาม สร้างขึ้นจากความหลงใหลในศิลปะยุโรปของนักธุรกิจชาวจีน ปราสาทแห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงสิ่งก่อสร้างที่น่าทึ่ง แต่ยังเป็นที่ตั้งของโรงแรมหรู และห้องเก็บไวน์ใต้ดินขนาดใหญ่ที่รวบรวมไวน์กว่า 2,000 ชนิดจากทั่วโลก ด้วยความอลังการนี้เอง ทำให้ปราสาทเหวินเฉิงถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ชื่อดังเรื่อง "Hello Mr. Billionaire" ยิ่งทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวต้องมาเยือน

ไปกันต่อที่ ท่าเรือชาวประมง วาร์ปไปเยือนเมืองท่าสุดโรแมนติกในยุโรป ที่นี่คือการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างสถาปัตยกรรมสไตล์อเมริกาเหนือและยุโรปกับทิวทัศน์ทะเลสีครามของเมืองเยียนไถ จินตนาการถึงการเดินเล่นรับลมทะเลเอื่อยๆ ไปตามทางเดินไม้ริมน้ำ โดยมีอาคารหลังคาสีแดงสดใสเป็นฉากหลัง ตัดกับสีฟ้าของท้องฟ้าและน้ำทะเล ที่นี่ไม่ได้เป็นเพียงท่าเรือ แต่เป็นแหล่งรวมความบันเทิง การพักผ่อน และร้านอาหารอร่อยๆ ที่รอให้คุณมาสัมผัส. ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายรูปกับอาคารสวยๆ หรือนั่งชิลในคาเฟ่ริมทะเล ที่นี่คือจุดหมายที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความทรงจำ

นำท่านเดินทางสู่ ถนนเฉาหยาง เช็คอินสุดฮิตที่ห้ามพลาดในเมืองเยียนไถ เมื่อก้าวเข้าสู่ถนนเฉาหยาง แล้วท่านจะรู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปในอดีต แต่ยังคงความทันสมัยไว้อย่างลงตัว ที่นี่คือ "จุดเช็คอินยอดนิยม" ที่เหล่าสายโซเชียลต้องมาเยือนเมื่อมาถึงเมืองเยียนไถ ถนนสายประวัติศาสตร์ที่เต็มไปด้วยอาคารสไตล์ยุโรปแห่งนี้ ไม่ได้มีเพียงความสวยงามของสถาปัตยกรรมเท่านั้น แต่ยังเปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวาจากร้านค้าเก๋ๆ คาเฟ่บรรยากาศดี และร้านอาหารมากมายที่รอให้คุณไปค้นหา เตรียมกล้องของคุณให้พร้อม เพราะทุกมุมของถนนเฉาหยางคือสตูดิโอถ่ายภาพชั้นเยี่ยมที่จะทำให้ฟีดของคุณโดดเด่นกว่าใคร

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 6) หม้อไฟสไตล์จีน

สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก

ALOFT HOTEL YANTAI หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว (มาตรฐานประเทศจีน)

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 7)

นำท่านเดินทางกลับสู่ เมืองชิงเต่า (ระยะทาง 226 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.5 ชั่วโมง)

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 8)

นำท่านเดินทางสู่ เขาเหลาซาน (รวมกระเช้าขึ้นลง) ที่สุดแห่งขุนเขา ณ ริมฝั่งทะเล เขาเหลาซาน หรือที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น "ภูเขาชื่อดังติดทะเลอันดับหนึ่งของจีน" มนต์เสน่ห์แห่งเมืองชิงเต่าที่ผสมผสานความยิ่งใหญ่ของขุนเขาเข้ากับความกว้างไกลของท้องทะเลสีครามได้อย่างลงตัว ที่นี่ไม่ได้เป็นเพียงสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ แต่ยังเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งลัทธิเต๋าที่เต็มไปด้วยเรื่องราวและตำนานอันเก่าแก่ จินตนาการถึงภาพยอดเขาหินแกรนิตสูงตระหง่านที่ถูกโอบล้อมด้วยไอหมอก ปกคลุมด้วยป่าสนเขียวขจี ตัดกับเส้นขอบฟ้าของทะเลเหลืองเบื้องล่าง การเดินทางมาเยือนเขาเหลาซานจึงเปรียบเสมือนการได้หลีกหนีความวุ่นวาย มาสู่ดินแดนที่ซึ่งธรรมชาติและจิตวิญญาณมาบรรจบกันอย่างแท้จริง

ณ อ้อมกอดแห่งขุนเขาหลาวซาน ยังเป็นที่ตั้งของ ศาลเจ้าไท่ชิงกง ที่ตั้งอยู่อย่างสงบงาม วัดแห่งนี้ไม่เป็นเพียงแค่อารามในศาสนาเต๋าที่เก่าแก่และมีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของจีนเท่านั้น แต่ยังเป็นหัวใจและจิตวิญญาณของเขาหลาวซานอีกด้วย กล่าวกันว่าวัดนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 140 ก่อนคริสตกาล หรือมีอายุกว่า 2,100 ปี เมื่อย่างเท้าเข้ามาในเขตวัด คุณจะสัมผัสได้ถึงพลังแห่งความศรัทธาที่สั่งสมมานานนับพันปี สถาปัตยกรรมแบบเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยปรัชญาของราชวงศ์ซ่ง โอบล้อมด้วยต้นไม้โบราณเขียวชอุ่มและเสียงคลื่นจากทะเลเหลืองที่อยู่ไม่ไกล ที่นี่คือสถานที่ที่คุณจะได้ปลดปล่อยความวุ่นวายและค้นพบความสงบที่แท้จริง

หลีกหนีจากความวุ่นวายในตัวเมืองชิงเต่า สัมผัสเสน่ห์อันเรียบง่ายของ ย่านซาจื่อโข่ว หมู่บ้านชาวประมงที่ใหญ่และมีชีวิตชีวาที่สุดแห่งหนึ่ง วิถีชีวิตที่ผูกพันกับท้องทะเล ภาพชาวประมงนำเรือกลับเข้าฝั่งพร้อมกับสัตว์ทะเลสดๆ ที่เพิ่งจับมาใหม่ๆ กลิ่นไอทะเลที่ผสมผสานกับความคึกคักของการซื้อขายสร้างบรรยากาศที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จนได้รับการขนานนามว่าเป็น "ชิงเคว เตร์เร แห่งคาบสมุทรซานตง" (Cinque Terre) ด้วยทัศนียภาพของบ้านเรือนสีสันสดใสที่ตั้งเรียงรายอยู่บนเนินเขา ตัดกับสีฟ้าครามของน้ำทะเลอย่างงดงาม

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 9)

สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก

HOLIDAY INN EXPRESS QINGDAO CHENGYANG หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว (มาตรฐานประเทศจีน)

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 10)

นำท่านเปิดประตูสู่ตำนานเบียร์ร้อยปีที่ พิพิธภัณฑ์เบียร์ชิงเต่า ก้าวเข้าสู่โลกแห่งฟองเบียร์และประวัติศาสตร์ที่มีชีวิตชีวาที่พิพิธภัณฑ์เบียร์ชิงเต่า ถือเป็นจุดกำเนิดของเบียร์ที่โด่งดังที่สุดของจีน ที่ซึ่งได้รับมรดกทางวัฒนธรรมจากเยอรมันเมื่อปี 1903 ได้ผสมผสานกับวัฒนธรรมจีนอย่างลงตัว เดินย้อนเวลาไปในอาคารอิฐแดงเก่าแก่สไตล์โกธิค สัมผัสกลิ่นหอมของมอลต์และฮอปส์ที่อบอวลไปทั่ว พร้อมชมเครื่องจักรต้มเบียร์ทองแดงขนาดยักษ์ที่เคยใช้งานจริง และปิดท้ายทริปด้วยการชิมเบียร์สดๆ ที่ส่งตรงจากถังหมัก เป็นประสบการณ์ที่ปลุกทุกประสาทสัมผัสและจะทำให้คุณหลงรักเมืองชิงเต่ามากยิ่งขึ้น และแน่นอน... ไฮไลท์ที่ทุกคนรอคอยคือการ ลิ้มรสเบียร์ชิงเต่าสด (ท่านละ 1 แก้ว) รสชาติต้นตำรับที่ส่งตรงจากถังบ่ม สำหรับท่านผู้เดินทางที่ อายุต่ำกว่า 18 ปี หรือ ท่านที่ไม่สามารถดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้เนื่องด้วยข้อจำกัดทางศาสนา จะมีเครื่องดื่มอัดลมที่ไม่มีแอลกอฮอล์ให้บริการแทน

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 11)

นำท่านเช็คอิน ณ จัตุรัสสี่พฤษภาคมหรือจัตุรัส 54 คือหัวใจและจิตวิญญาณสมัยใหม่ของเมืองชิงเต่า ที่นี่เป็นสัญลักษณ์ที่มีชีวิตชีวาของการเคลื่อนไหวทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญของจีนในช่วงต้นยุคสาธารณรัฐ โดดเด่นด้วยประติมากรรมสีแดงเพลิง "สายลมแห่งเดือนพฤษภา" ที่พุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า สะท้อนถึงพลังของคนหนุ่มสาวและความรักชาติ ที่นี่คือจุดนัดพบที่ชาวเมืองและนักท่องเที่ยวต่างมารวมตัวกันเพื่อสัมผัสลมทะเล เดินเล่นผ่อนคลาย และดื่มด่ำกับทิวทัศน์ของอ่าวฝูซาน ที่งดงาม โดยเฉพาะยามค่ำคืนที่จัตุรัสและตึกระฟ้าโดยรอบจะสว่างไสวด้วยการแสดงแสงสีเสียงสุดตระการตา

นำท่านเดินทางสู่ ถนนคนเดินไถตง หัวใจแห่งการช้อปปิ้งและสีสันยามค่ำคืนของชิงเต่า เมื่อแสงตะวันของเมืองชิงเต่าเริ่มจางลง นั่นคือสัญญาณว่าชีวิตชีวาที่แท้จริงของเมืองกำลังจะเริ่มต้นขึ้น ณ ถนนคนเดินไถตง ศูนย์กลางการค้าที่คึกคักและเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของเมือง ตลาดอันเป็นเหมือนเวทีขนาดใหญ่ที่จัดแสดงวัฒนธรรมท้องถิ่น เทรนด์แฟชั่นล่าสุด และที่สำคัญที่สุดคือ สวรรค์ของอาหารสตรีทฟู้ดที่ส่งกลิ่นหอมยั่วยวนไปทั่วบริเวณ ตามแผนการเดินทางของคุณ นี่คือช่วงเวลาอิสระที่คุณจะได้ปลดปล่อยความเป็นนักช้อปและนักชิมในตัวคุณให้เต็มที่ ท่ามกลางแสงไฟนีออนหลากสีสันและพลังงานที่ไม่เคยหลับใหลของชาวเมืองชิงเต่า

อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย ณ ถนนไถตง อิสระให้ท่านได้ "ตามล่า" หาของอร่อยด้วยตัวท่านเอง

เมื่อแสงอาทิตย์ยามเย็นอาบไล้ผืนน้ำ บรรยากาศจะยิ่งทวีความโรแมนติก ก่อนที่ในยามค่ำคืนจะถูกปลุกให้มีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้งด้วย การแสดงแสงสีเสียง "ฝูซานวาน" สุดตระการตา ที่สะท้อนภาพความศิวิไลซ์ของชิงเต่าบนผืนน้ำกว้างใหญ่ เมื่ออาทิตย์ลับขอบฟ้าที่ชิงเต่า มหกรรมการแสดงแสงสีเสียงสุดตระการตา "ฝูซานวาน ไลท์โชว์" ก็ได้เริ่มต้นขึ้น. ตึกระฟ้ากว่า 50 หลังตลอดแนวชายฝั่งยาวเหยียดพร้อมใจกันสาดส่องแสงไฟ LED นับล้านดวง แปลงโฉมอ่าวฝูซานให้กลายเป็นผืนผ้าใบขนาดยักษ์ที่เล่าเรื่องราวของเมืองชิงเต่าผ่านภาพแอนิเมชันอันงดงามและมีชีวิตชีวา. การแสดงชุดนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่แสงไฟที่ส่องสว่าง แต่คือการหลอมรวมศิลปะ วัฒนธรรม และเทคโนโลยีเข้าด้วยกันอย่างลงตัว สร้างสรรค์ประสบการณ์อันน่าประทับใจและโรแมนติกให้กับผู้มาเยือนทุกคน (การแสดงเริ่ม 18:30 - 21:00 น.)

สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก

HOLIDAY INN EXPRESS QINGDAO CHENGYANG หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว (มาตรฐานประเทศจีน)

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 12)

เดินทางสู่ สะพานจ้านเฉียว สัญลักษณ์แห่งชิงเต่าที่ทอดยาวสู่ใจทะเล ทอดสายตาไปกับสะพานที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์อันโดดเด่นที่สุดของเมืองชิงเต่า "สะพานจ้านเฉียว" คือทางเดินยาว 440 เมตรที่ยื่นตัวออกไปในอ่าวชิงเต่าอย่างสง่างาม สร้างขึ้นครั้งแรกในปี 1891 ปลายสุดของสะพานเป็นที่ตั้งของ "ศาลาหุยหลาน" ศาลาทรงแปดเหลี่ยมสองชั้นสไตล์จีนคลาสสิก ซึ่งภาพปรากฏอยู่บนฉลากเบียร์ชิงเต่าที่โด่งดังไปทั่วโลก ณ ที่แห่งนี้ คุณจะได้สัมผัสกับลมทะเลเย็นสบาย ฟังเสียงคลื่นกระทบฝั่ง และชมภาพฝูงนกนางนวลที่โบยบินอย่างอิสระ เป็นภาพจำอันงดงามที่นักเดินทางทุกคนต้องมาสัมผัสด้วยตัวเอง

เดินเล่นในยุโรป โดยไม่ต้องตีตั๋วไปไกลถึงอีกซีกโลก ที่นี่คือ "ปาต้ากวน" ถนนแปดกระทรวง ย่านที่ได้ชื่อว่าเป็น "พิพิธภัณฑ์สถาปัตยกรรมนานาชาติ" กลางเมืองชิงเต่า ผืนผ้าใบที่มีชีวิตซึ่งวาดภาพความงามของสถาปัตยกรรมจากกว่า 20 ประเทศทั่วโลก ตั้งแต่คฤหาสน์สไตล์เยอรมันที่สง่างาม ไปจนถึงวิลล่าสไตล์เดนมาร์กที่ราวกับหลุดออกมาจากเทพนิยาย ถนนแต่ละสายในย่านนี้จะปลูกต้นไม้แตกต่างกันไป ทำให้ในทุกฤดูกาล ปาต้ากวนจะเปลี่ยนสีสันและบรรยากาศ สร้างเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใคร ไม่ว่าจะเป็นสีชมพูของดอกท้อในฤดูใบไม้ผลิ หรือสีทองอร่ามของใบแปะก๊วยในฤดูใบไม้ร่วง

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 13) ลิ้มรสชาติอาหารกวางตุ้ง

นำท่าน เช็คอินย่านเมืองเก่าเยอรมัน เริ่มต้นที่ ตรอกกว่างซิงหลี่ จุดเช็คอินสุดฮิปแห่งชิงเต่าที่ลมหายใจแห่งอดีตยังมีชีวิต ย้อนเวลากลับไปในชิงเต่าเมื่อร้อยกว่าปีก่อน ที่นี่คือย่านเก่าแก่ที่ถูกปลุกให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง กลายเป็นแหล่งรวมตัวของเหล่าฮิปสเตอร์และนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใคร ตรอกซอกซอยที่เรียงรายไปด้วยอาคารสถาปัตยกรรมแบบ "หลี่-ย่วน" ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างบ้านสี่ล้อมแบบจีนกับอาคารสไตล์ตะวันตก ที่สร้างขึ้นในช่วงทศวรรษ 1920-1930 ปัจจุบันได้กลายมาเป็นที่ตั้งของคาเฟ่สุดเก๋ ร้านค้าดีไซน์ และแกลเลอรีศิลปะขนาดย่อม ทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยมที่ใครมาเยือนชิงเต่าก็ต้องแวะมาเช็คอิน

ไม่ไกลจากตรอกกว่างซิ่ง จะเป็นที่ตั้งของ ถนนจงซาน ย้อนเวลาสู่หัวใจแห่งชิงเต่า กลิ่นอายยุโรปบนถนนสายประวัติศาสตร์ ถนนสายที่เป็นดั่งพิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิตซึ่งบันทึกเรื่องราวกว่าศตวรรษของเมืองชิงเต่า ในฐานะ "จุดเช็คอินยอดฮิต" ที่นักท่องเที่ยวต้องมาเยือน ถนนสายนี้คือศูนย์กลางการค้าแห่งแรกของเมืองที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปเก่าแก่ที่ได้รับอิทธิพลจากเยอรมัน การได้เดินทอดน่องไปบนถนนจงซานเปรียบเสมือนการเดินทางย้อนเวลากลับไปในยุคที่วัฒนธรรมตะวันออกและตะวันตกเริ่มหลอมรวมกัน สองข้างทางเรียงรายไปด้วยอาคารโบราณที่ปัจจุบันกลายเป็นร้านค้าทันสมัย ร้านอาหารท้องถิ่น และคาเฟ่สุดชิค ทำให้ที่นี่คือจุดหมายที่ผสมผสานเสน่ห์ของวันวานเข้ากับความมีชีวิตชีวาของยุคปัจจุบันได้อย่างลงตัว

ไม่ไกลจากถนนจงซาน ยังเป็นที่ตั้งของ มหาวิหารเซนต์ไมเคิล หรือที่คนท้องถิ่นรู้จักในชื่อ "โบสถ์คาทอลิกถนนเจ้อเจียง" ตั้งตระหง่านเป็นประจักษ์พยานแห่งประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว โบสถ์สไตล์เยอรมันแห่งนี้สร้างขึ้นในปี 1934 ด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิกและโรมาเนสก์ ยอดแหลมคู่สูง 56 เมตรที่มียอดเป็นไม้กางเขนสูง 4.5 เมตร และหลังคากระเบื้องสีแดงสด กลายเป็นภาพจำอันโดดเด่นของเมืองชิงเต่า ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ที่ศรัทธาในศาสนา เป็นผู้ชื่นชอบสถาปัตยกรรม หรือเป็นนักเดินทางที่มองหามุมถ่ายรูปสวยๆ ที่นี่คือจุดหมายที่ไม่ควรพลาด (ราคาทัวร์ไม่รวมค่าเข้าชมภายในโบสถ์)

ไขรหัสประวัติศาสตร์ ก้าวเข้าสู่หน้าประวัติศาสตร์ที่มีชีวิตของเมืองชิงเต่า ณ ที่ทำการตำรวจเยอรมันเก่า อาคารสถาปัตยกรรมยุโรปอันโดดเด่นที่สร้างขึ้นในปี 1904 ที่นี่ไม่ได้เป็นเพียงอาคารเก่าแก่ที่สวยงาม แต่เป็นหน้าต่างที่เปิดให้เราได้เห็นอดีตของเมืองท่าแห่งนี้ในยุคที่เยอรมนีเข้ามาปกครอง ด้วยหอคอยสูงตระหง่านและหลังคากระเบื้องสีแดงสด ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่นักเดินทางผู้หลงใหลในประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมไม่ควรพลาด เดิมทีอาคารแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นที่ทำการตำรวจ (Polizeiamt) ในยุคอาณานิคมของเยอรมนี. และต่อมาได้กลายเป็นที่ทำการของหน่วยงานราชการต่างๆ ตลอดช่วงเวลาที่ผันเปลี่ยน ปัจจุบันอาคารอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์แห่งนี้เป็นที่ตั้งของสำนักงานตำรวจเมืองชิงเต่า และเปิดให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมความงามของสถาปัตยกรรมภายนอก.

เดินเข้าสู่ย่านเมืองเก่าของชิงเต่า แล้วคุณจะพบกับ ถนนสายภาพเขียน ถนนสายเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ ชื่อ "โปหลัวโหยวจื่อ อาจทำให้หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าเกี่ยวข้องกับสับปะรดหรือน้ำมัน แต่แท้จริงแล้วเป็นชื่อที่ชาวบ้านใช้เรียกถนนที่ปูด้วยหินสี่เหลี่ยมมาตั้งแต่ยุคที่เยอรมันปกครอง ซึ่งเมื่อปูต่อกันแล้วมีลักษณะคล้ายกับเปลือกสับปะรดนั่นเอง ปัจจุบัน ถนนสายประวัติศาสตร์นี้ได้ถูกปลุกให้มีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้งด้วยภาพวาดสตรีทอาร์ตสีสันสดใสบนกำแพงอาคารเก่าแก่ กลายเป็นจุดเช็คอินที่ผสมผสานระหว่างร่องรอยแห่งอดีตและความคิดสร้างสรรค์ของยุคใหม่ได้อย่างลงตัว ที่นี่คือสตูดิโอถ่ายภาพกลางแจ้งที่สมบูรณ์แบบ ที่ซึ่งทุกย่างก้าวบนพื้นหินอายุนับร้อยปีจะนำคุณไปพบกับมุมมองใหม่ๆ ของเมืองชิงเต่าผ่านงานศิลปะที่เล่าเรื่องราววัฒนธรรมและชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในอดีต

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 14) บาร์บีคิวปิ้งย่าง

สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก

HOLIDAY INN EXPRESS QINGDAO CHENGYANG หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว (มาตรฐานประเทศจีน)

รับประทานอาหารแบบ BOX SET (มื้อที่ 15)

สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานชิงเต่าเจียวตงเช็คอิน ณ เคาน์เตอร์ สายการบิน ชิงเต่าแอร์ไลน์ พร้อมโหลดสัมภาระ รวมน้ำหนักกระเป๋า 20 กิโลกรัม/ท่านละ 1 ใบ รับบัตรโดยสารและผ่านขั้นตอนตรวจคนเข้าเมือง

ออกเดินทางจาก ท่าอากาศยานชิงเต่าเจียวตงสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพ โดย สายการบิน ชิงเต่า แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ QW9897
**ไม่มีอาหารบนเครื่อง** สายการบินมีขายอาหารบนเครื่อง (มีเฉพาะบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและขนมทานเล่น) โดยท่านสามารถสั่งซื้อได้ ณ เจ้าหน้าที่แอร์ บนเครื่องบิน (ไม่เปิดให้จองล่วงหน้า) ทั้งนี้เมนูอาหารอาจจะแตกต่างกันออกไปในแต่ละไฟลท์ โดยมีสายการบินเป็นผู้กำหนด

เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ